วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ประวัติความเป็นมาของโค้ก

ประวัติความเป็นมาของโค้ก

 โค้ก มี ประวัติความเป็นมาอย่างไร ถ้าเล่าไปก็เหมือนไม่น่าเชื่อว่า ประวัติของโค้กCoke มีต้นแบบมาจาก   ไวน์โคคา แต่เป็นเรื่องจริง เพราะ โค้ก นั้นเกิดจาก นายจอร์น เอส เพมเบอร์ตัน นักผสมยาชาวอเมริกัน เอาแนวคิดของ โคคาไวน์ Coca wine ยี่ห้อ “Vin Mariani” มาใช้ครับ
“Vin Mariani” ที่ผลิตคิดค้นโดย โดย Angelo Mariani นักเคมีชาวฝรั่งเศส ในสมัยช่วง 1863-1915 เป็นสินค้าที่โด่งดังและนิยมกันมากในหมู่คนชั้นสูง ทั้งในอังกฤษ ยุโรป และอเมริกา บุคคลที่มีชื่อเสียงยุคนั้นก็เป็นต้นแบบความนิยมไวน์ตัวนี้ให้กับยุคสมัย ตั้งแต่ “Buffalo Bill” Cody, Thomas Edison นักวิทยาศาสตร์แห่งยุค และของโลก, Ulysses S. Grant, Jules Verne นักประพันธ์นิยายวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลก, H. G. Wells, Emile Zola, และ Frederic-Auguste Bartholdi ศิลปินผู้สร้างเทพีเสรีภาพ นอกจากนั้น ว่ากันว่า โป๊บเซนต์พิอุสที่ 10 โป๊บลีโอ ที่13 และราชินีวิกตอเรีย โปรดมาก
โปรดมากแค่ไหน มีหลักฐานที่ว่า โป๊บลีโอได้ประทานเหรียญทองของสำนักวาตีกันให้แก่ไวน์ Vin Mariani แถมยยังการันตีไวน์ลงบนโปสเตอร์โฆษณาด้วยอีกต่างหาก


จากความสำเร็จดังกล่าว นายจอร์น เอส เพมเบอร์ตัน นักผสมยาชาวอเมริกันก็เลยคิดทำบ้าง และเริ่มทำออกขายในปี 1884 ใช้ชื่อยี่ห้อว่า “Pemberton’s French Wine Coca” แต่เนื่องจากในปีต่อมา 1885 เมืองแอตแลนตารวมทั้งเขตฟุลตัน มีการออกกฏหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เพมเบอร์ตัน จึงเปลี่ยนไวน์โคคาตัวที่คิดคินขึ้นนี้ให้เป็นแบบที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ โดยคิดค้นดัดแปลงใช้สารจากใบโคคา มาผสมกับสารสกัดจากเมล็ดของผลโคลา แล้วพบว่ารสชาติดี (โคคาเป็นผลไม้เปลือกแข็งชนิดหนึ่งในป่าเขตร้อนของทวีปแอฟริกา มีสารคาเฟอีน) เครื่องดื่มชนิดนี้ จึงถูกเรียกว่า Coca-Cola จากวัตถุดิบดั้งเดิมที่นำมาใช้ โดยที่คนที่คิดเรียกชื่อ Coca-Cola นี้คนแรก ไม่ใช่นายเพมเบอร์ตัน แต่เป็นพนักงานบัญชีของเพมเบอร์ตัน ที่ชื่อว่า เอ็ม.โรบินสัน (ฮา)
ที่ฮากว่านั้น คือ สมัยนั้น Coca-Cola ถูกขายเป็นไซรับ ในฐานะยาบำรุงที่มีสรรพคุณสามารถรักษาอาการจากโรคติดมอร์ฟีน , โรคท้องอืดท้องเฟ้อ แก้อ่อนเพลีย และปวดหัว และมีขายในบาร์จ่ายโซดา แต่ไม่ได้ผสมโซดาแบบปัจจุบัน แต่ผสมน้ำเปล่า เป็นเรื่องแปลกแต่จริง

ในที่สุด วันที่ โค้ก Coca-Cola เริ่มต้นศักราชของการเป็นเครื่องดื่ม โค้ก อย่างแท้จริง ก็เริ่มขึ้นเมื่อ พนักงานประจำบาร์จ่ายโซดาคนนึง ที่ชื่อ วิลลิส อี เวเนสเบิล ดันไปผสมไซรัปของโคคา-โคลา เข้ากับโซดา แทนที่จะใช้น้ำเปล่า แล้วคนที่ได้ดื่มรู้สึกชื่นชอบ เกิดความติดใจสั่งซ้ำและแพร่ขยายความนิยมไปเรื่อยๆ และขยายความนิยมมากขึ้นจนกลายเป็นเครื่องดื่มบรรจุสำเร็จในขวดแพคเกจโค้ก และได้รับความนิยมไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
แล้วอยากรู้ไหมครับว่า บริษัทโค้ก Coke  The Coca-Cola Company ในปัจจุบันที่ประสบความสำเร็จลงตัวอย่างที่เห็นนี้ เริ่มต้นในปีไหน

         ความเป็นมาของบริษัทโค้ก ประวัติโค้ก จริงๆ น่าจะเริ่มที่ อาซา จีแคน์เลอร์ นักธุรกิจชาวเมืองแอตแลนต้า ที่ได้กว้านซื้อหุ้นของ บริษัทโค้ก ทั้งหมด จากนายจอร์น เอส เพมเบอร์ตัน จนกลายเป็นผู้ครอบครองกิจการทั้งหมด และทำยอดขายของ Coke มากกว่าเดิมถึง 10 เท่า และได้ก่อตั้ง บริษัท Coca-Cola ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1893 พร้อมจดทะเบียนลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการ

         ในปี 1894 ซิปปี้ โจเซฟ ได้การริเริ่มบรรจุ Coca-Cola ลงขวด และส่งไปขายตามไร่ใหญ่ๆ หรือตามโรงงานผลิตไม้แปรรูป ถือได้ว่าเป็นคนแรกที่นำ Coca-Cola บรรจุลงขวดเป็นคนแรก โรงงานบรรจุเครื่องเครื่องดื่ม Coca-Cola ลงขวด ถูกตั้งเป็นแห่งแรกที่เมืองชัตตานูก้า รัฐเทนเนสซี ในปีถัดมาโรงงานแห่งที่ 2 ก็ได้ถูกตั้งขึ้นที่เมืองแอตแลนต้า ในอีก 20 ปีถัดมา จำนวนโรงงานบรรจุขวดเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1,000 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา
ที่มา http://www.geranun.com/archives/2224/

เรื่องเล่าและข่าวลือเกี่ยวกับโค้ก

เรื่องเล่าและข่าวลือเกี่ยวกับโค้ก

โค้ก (Coke) หรือ โคคา โคล่า (Coca Cola) คือเครื่องหมายการค้าของ บริษัทโคคาโคล่า สำนักงานใหญ่อยู่ที่ แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ในสหรัฐอเมริกา โค้กเป็นน้ำอัดลมชนิดน้ำโคล่า ที่ได้รับความนิยมในมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
ถึงแม้ว่าโค้กจะถูกอ้างถึงในกรณีที่เป็นเครื่องดื่มที่ทำให้เสียสุขภาพ เช่น ทำให้ฟันผุ ทำให้ปวดท้อง หรือเป็นโรคอ้วน และนอกจากนี้ยังมีข่าวลือประหลาดๆ เกี่ยวกับตัวมันด้วย ดังนี้
ที่มา https://giphy.com/coca-cola 
                                       
"You can put a T-bone steak in a bowl of Coke and it will be gone in two days.
The active ingredient in Coke is phosphoric acid. Its pH is 2.8. It will dissolve a nail in about 4 days. Phosphoric acid also leaches calcium from bones and is a major contributor to the rising increase in osteoporosis.
To carry Coca-Cola syrup (the concentrate) the commercial truck must use the Hazardous material place cards reserved for Highly corrosive materials."
ใจความบอกว่า ถ้าคุณวาง T-boneสเต็กในชามมันจะละลายเมื่อเวลาผ่านไป 2 วัน
ซึ่งโค้กมีค่าความเป็นกรดด่างถึง  pH อยู่ 2.8  สารตัวสำคัญที่มีอยู่ในโค้กก็คือกรดกำมะถัน  ในด้านความเป็นกรด ด่างสารตัวสำคัญที่มีอยู่ในโค้กก็คือกรดกำมะถัน  ในด้านความเป็นกรดด่าง มันมีความเป็นกรดอยู่สูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วัน
มันเรื่องจริงหรือเปล่า  th.wikipedia.org/wiki/โค้ก
โค้กมีเรื่องเล่าและข่าวลือมากมายกล่าวถึงผลเสียของโค้ก ซึ่งข่าวลือยังมีปรากฏแม้แต่ในเว็บไซต์สภากาชาดไทย ส่วนมากจะเน้นในแนวขำขันและการนำโค้กไปใช้ในรูปแบบต่างๆ เช่น ปริมาณกรดในโค้กมีมากเพียงพอที่จะทำลายอวัยวะภายในร่างกาย ซึ่งในความเป็นจริงค่าความเป็นกรดด่าง หรือ pH ของโค้กมีค่า 2.5 ซึ่งใกล้เคียงกับมะนาว หรือ เลมอน มีค่า pH 2.4 หรือ ส้ม มีค่า pH 3.5
(นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกว่าตำรวจสหรัฐอเมริกาใช้โค้กในการล้างเลือดบนถนนกรณีเกิดเหตุรถชน, โค้กสามารถละลายฟันในช่องปากในตอนกลางคืน,โค้กใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์โดยใช้โค้กที่มีฤทธิ์เป็นกรดเทฆ่าอสุจิ,โค้กใช้ในการขจัดคราบเกลือ บริเวณขั้วแบตเตอรีรถยนต์ให้สะอาดได้(โดยปกติแล้วคราบเกลือสามารถกำจัดได้โดยใช้น้ำอุ่นธรรมดาเช่นเดียวกัน) ซึ่งข่าวลือต่างๆ เป็นเพียงเรื่องที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน (ถึงแม้ว่ารายการมิธบัสเตอร์ส ได้มีการทดสอบในการใช้โค้กช่วยในการล้างเลือดที่เปื้อนเสื้อผ้า)
ที่มา https://pantip.com/topic/32183693
ที่มา https://giphy.com/coca-cola 

โค้กในประเทศไทย

โค้กในประเทศไทย

โคคา-โคลา หรือ โค้ก ออกจำหน่ายในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2492 ในปริมาณบรรจุขวดละ 6.5 ออนซ์ จำหน่ายราคา 1.50 บาท โดย นายรักษ์ ปันยารชุน นักธุรกิจชาวไทยร่วมกับหุ้นส่วนชาวต่างชาติ ดำเนินการขออนุมัติลิขสิทธิ์ขวด เป็นผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 และต่อมาได้ขายลิขสิทธิ์ดังกล่าวให้แก่บริษัทผลิตเครื่องดื่ม ไทยเพียว จำกัด[2] ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจัดจำหน่ายใน 14 จังหวัดภาคใต้ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม โคคา-โคลา ในประเทศไทย

ที่มา:https://www.bloggang.com/data/a/ahead/picture/1348030215.bmp

รูปภาพ coca'cola

รูปภาพ coca'cola


ที่มา:https://images.fineartamerica.com/images-medium-large-5/coca-cola-vintage-ad-poster-marvin-blaine.jpg

ที่มา:http://www.coca-colacompany.com/content/dam/journey/us/en/private/2010/01/lg_santa_1936-7d9f3c54.jpg
ที่มา:http://www.enjoyart.com/library/food_drink/coca_cola_soda/large/Coke-Belongs0000-3506.jpg
ที่มา:http://cdn.acidcow.com/pics/20110908/coca_cola_29.jpg

ที่มา:http://www.e-vintageposters.com/wp-content/themes/twentyeleven/posters/org/1488469429.JPG

ที่มา:http://www.bitrebels.com/wp-content/uploads/2009/06/Coka-Cola-Poster-Design-102.jpg


ที่มา:https://dgeiu3fz282x5.cloudfront.net/g/l/lg1393.jpg